Published on 14 Oct 2016

เมื่อวานนี้ ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่สาส์นของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยระบุว่าในนามของตัวแทนประชาชนชาวอเมริกัน ขอถวายความอาลัยอย่างสุดซึ้งแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติต์ พระบรมราชินีนารถ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ และประชาชนชาวไทยทุกคน ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

โดยระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯและทรงเป็นพันธมิตรที่ทรงค่ายิ่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายคน โดยประธานาธิบดีโอบามายังระบุว่า ตัวเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อปี 2555 และยังรำลึกถึงพระจริยาวัตรอันงดงามและพระเมตตาของพระองค์ พร้อมทั้งยกย่องในพระปรีชาสามารถและการทุ่มเทพระองค์อย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อยในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนชาวไทย

สาส์นของประธานาธิบดีโอบามายังระบุว่า ตัวเองและประชาชนชาวอเมริกันขอยืนเคียงข้างพี่น้องชาวไทยร่วมอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

ขณะที่นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ร่วมน้อมถวายบังคมแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งแด่พระราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งยังยกย่องการอุทิศพระองค์อย่างยาวนานให้กับประเทศชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และระบุว่าทรงเป็นที่เคารพรักของทั้งปวงชนชาวไทยและนานาประเทศ และสหประชาชาติเคยถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อปี 2549 ซึ่งเลขาธิการสหประชาชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยจะยังคงเดินหน้าสานต่อพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูประการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชอันสอดคล้องกับหลักการสากลและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนต่อไป ขณะเดียวกันที่ประชุมสำนักเลขาธิการสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ได้ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อถวายอาลัยด้วย

ขณะที่ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายกรัฐมนตรีอินเดียกล่าวถึงพระองค์ว่า พระองค์เป็นที่เคารพรักของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ร่วมน้อมถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยระบุว่าในนามตัวแทนประชาชนชนจีน ของถวายความอาลัยต่อพระราชวงศ์และประชาชนชาวไทยทุกคน พร้อมระบุว่า การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของทั้งชาวไทยและจีน แต่พระองค์จะทรงสถิตย์อยู่ในหัวใจของประชาชนทั้ง 2 ประเทศนิรันดร

ด้านนายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย น้อมถวายบังคมแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ในฐานะรัฐบาลและประชาชนอินโดนีเซีย ทางการขอน้อมถวายบังคมและแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งเปรียบเสมือนการที่โลกสูญเสียผู้นำที่ใกล้ชิดกับประชาชน

ขณะที่ในวันนี้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นแถลงในนามตัวแทนรัฐบาล น้อมถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยระบุว่า ญี่ปุ่นของถวายอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อพระราชวงศ์และประชาชนในประเทศไทย ทั้งยังยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศว่าทรงเป็นที่เคารพรักของประชาชนทุกคน

ด้านนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาะเบะของญี่ปุ่น เผยว่าจะเดินทางไปน้อมถวายบังคมยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโตเกียววันนี้ พร้อมระบุว่า ตัวเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และรำลึกจดจำพระองค์ในฐานะกษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม

ขณะที่รายงานระบุว่า บรรยากาศที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโตเกียววันนี้ มีทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ที่แต่งกายด้วยชุดดำเดินทางมาถวายความอาลัย

ส่วนในวันนี้มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป ที่ประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมก็ได้ร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย โดยนายมิโรสลาฟ ลาชาค รัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวาเกีย ในฐานะผู้ประสานงานรัฐมนตรีต่างประเทศสโลวาเกีย ประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป หรืออียูที่จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครในวันนี้ กล่าวในฐานะผู้แทนจากสหภาพยุโรป ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พร้อมย้ำว่า นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของไทย และสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรักของพสกนิกรที่มีต่อพระองค์อย่างแท้จริง

โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ในฐานะผู้ประสานงานอาเซียน-อียู กล่าวแสดงความขอบคุณ รัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวาเกีย รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทุกคนที่เข้าร่วม และร่วมถวายความอาลัยในการประชุมวันนี้

ขณะที่นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวแสดงความเสียใจต่อสมาชิกราชวงศ์และคนไทยทั่วประเทศ ทั้งยังได้กล่าวยกย่องถึงการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทำให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

banner_newsong_mourn

%d